pocket wifi ไปญี่ปุ่น

pocket wifi ไปญี่ปุ่น WiFi เป็นสิ่งที่ต้องมีเมื่อเดินทางในญี่ปุ่น แต่มีเยอะจนสับสนไปหมด ขอเปรียบเทียบ Pocket WiFi 4 ทั้งราคา ปริมาณเน็ต วิธีคืนเครื่อง บริการที่จองไว้สามารถรับเครื่องได้ทันที รวมถึงคำแนะนำสำหรับผู้พำนักระยะยาวในญี่ปุ่น

จะใช้ pocket wifi ไปญี่ปุ่น แนะนำ Pocket WiFi เลย!

ถ้าใครถือสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตอยู่ในมือ แน่นอนว่าสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือสัญญาณอินเทอร์เน็ต มีสถานที่ให้บริการ Wi-Fi ในญี่ปุ่นมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ฉันต้องยอมรับว่าฉันยังไม่ได้มากขนาดนั้น นอกเหนือจากการใช้งาน บางครั้งคุณต้องลงทะเบียนที่อยู่อีเมลหรือหมายเลขโทรศัพท์ของคุณ

ส่วนการซื้อซิมการ์ดนั้นต้องระวังเรื่องรุ่นโทรศัพท์และขีดจำกัดความเร็วและปริมาณอินเทอร์เน็ตที่ใช้ได้ ดังนั้นถ้าใครไปเที่ยวญี่ปุ่น เลยอยากแนะนำให้เช่า Pocket WiFi!

วิธีเช่า Pocket WiFi รับที่สนามบินก็ได้นะ!

ฉันจะเช่า Pocket WiFi ในญี่ปุ่นได้อย่างไร? สิ่งแรกที่ต้องจำไว้คือบริการ Pocket WiFi ส่วนใหญ่จำเป็นต้องจองออนไลน์

แน่นอนว่ามีบางเจ้าของที่สามารถปล่อยเช่าได้ทันที แต่เครื่องมีจำนวนจำกัด ทำให้วันนั้นอาจจะไม่มีเครื่องให้เช่าเลยเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาความวุ่นวาย แนะนำว่า อย่าลืมโทรจองล่วงหน้านะครับ

วิธีการรับเครื่องสามารถรับได้ที่เคาน์เตอร์ของบริษัทนั้นๆ ในสนามบิน หรือไปที่ร้านในเมือง บางแห่งมีบริการส่งถึงที่พักหรือสถานที่ที่กำหนดด้วย

การคืนอุปกรณ์มีหลายวิธี เช่น ส่งคืนที่ร้านค้าของบริษัทหรือเคาน์เตอร์สนามบิน คืนจากร้านสะดวกซื้อ ฯลฯ ค้นหาวิธีที่สะดวกสำหรับคุณ

ในกรณีที่อุปกรณ์เสียหายหรือสูญหาย จะมีการจ่ายค่าปรับ (ประมาณ 40,000 เยน) ดังนั้นโปรดใช้ความระมัดระวังให้มาก หากคุณมีบริการเพิ่มเติมเป็นประกันสำหรับอุปกรณ์ของคุณ คุณควรสมัครเพื่อความปลอดภัย

4 เจ้า Pocket WiFi ที่แนะนำ มีโปร Unlimite ด้วยนะ!

ผู้ให้บริการ Pocket WiFi ในญี่ปุ่นที่อยากแนะนำมีดังนี้

1. NINJA Wi-Fi : ราคาสุดคุ้ม รับได้ในวันที่จอง

เพื่อการบริการที่คุ้มค่า เหมาะสำหรับการท่องเที่ยวญี่ปุ่น 3 – 7 วัน ขอแนะนำ NINJA Wi-Fi

ตอนนี้มีส่วนลดพิเศษสำหรับผู้อ่าน MATCHA ด้วย การใช้คูปองส่วนลด 30% ทำให้การเช่า Pocket WiFi คุ้มค่ายิ่งขึ้น! อย่าลืมตรวจสอบคูปองที่ปุ่มสีน้ำเงินด้านล่างก่อนทำการจอง

NINJA Wi-Fi เช่าได้ตั้งแต่ 1 วันขึ้นไป ใช้งานได้ไม่จำกัด (*) ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ใดในญี่ปุ่น คุณก็สามารถเพลิดเพลินกับอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงได้ไม่จำกัด ด้วยเครือข่าย Hybrid 4G LTE อันดับต้น ๆ ของญี่ปุ่น ทำให้รับชมคลิปวีดีโอได้ไม่มีสะดุด (ดาวน์โหลดสูงสุด 187.5Mbps, อัพโหลดสูงสุด 37.5Mbps)

ข้อดี:
มีเคาน์เตอร์รับสินค้ามากที่สุดในญี่ปุ่น

สามารถรับเครื่องได้ที่ Counter สนามบินใน Shinjuku หรือให้ไปส่งที่ที่พักก็ได้ เวลาคืน สามารถคืนได้ทั้งที่สนามบินและผ่านร้านสะดวกซื้อ (ไม่สามารถหย่อนลงตู้ไปรษณีย์ได้) และไม่ต้องรับและคืนเครื่องด้วยวิธีหรือสถานที่เดียวกัน

หากคุณจองวันก่อนรับอุปกรณ์ภายในเวลา 15:00 น. ตามเวลาญี่ปุ่น (13:00 น. เวลาไทย) คุณสามารถเลือกรับอุปกรณ์ที่สนามบินในวันถัดไปได้ (เฉพาะสนามบินนานาชาตินาริตะ เทอร์มินอล 1 และ 2 สนามบินนานาชาติฮาเนดะ สนามบินนานาชาติคันไซ และสนามบินนาฮา) ส่วนสนามบินอื่นๆ รวม 11 สนามบิน คุณสามารถเลือกรับอุปกรณ์ได้หลังจากทำการจอง 2 – 4 วัน

นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์อื่นๆ ที่สามารถเช่ากันได้ รวมถึงสามารถเช่าอุปกรณ์การแปล เช่น ili, POCKETALK ได้ในราคาสุดคุ้ม

2. Wi-Fi RENTAL JAPAN : เข้าใจง่ายด้วยแพลนง่ายๆ

มีแผน “1 วัน 900 เยน ความเร็ว 612Mbps” เท่านั้น นอกเหนือจากบริการจัดส่งที่โรงแรม สามารถรับอุปกรณ์ได้ที่ไปรษณีย์หรือเคาน์เตอร์ของบริษัทในสนามบิน หรือที่สำนักงานในชินจุกุ ส่วนขากลับ เพียงใส่เครื่องในซองที่ได้รับแล้วหย่อนลงในตู้ไปรษณีย์ เป็นอันเสร็จ!

การใช้บริการต้องจองล่วงหน้าอย่างน้อย 2 วันก่อนวันรับรถ และชำระเงินผ่าน PayPal หรือบัตรเครดิต

ข้อดี:
ใช้งานได้ไม่จำกัดและเล่นเน็ตได้ไม่จำกัดความเร็วหากใช้เน็ตไม่เกิน 10GB ใน 3 วัน

สามารถเพิ่มประกัน (สูญหายหรือจมน้ำ) ได้ในราคา 500 เยน หากไม่มีการรับประกัน มีปัญหาจะต้องจ่ายค่าชดเชย 45,360 เยน ต้องทำประกันในขณะที่ทำการจองอุปกรณ์

3. Wi-Fi RENTAL.COM : มีเคาน์เตอร์รับเครื่องเยอะ

บริการนี้มีผู้ใช้มากกว่า 1.5 ล้านคน

บริการนี้ใช้เครือข่ายสัญญาณของ Softbank มีแผนให้เลือก 3 แผน: แผนอนุญาตให้ใช้สัญญาณของ Softbank ได้ไม่จำกัด (สูงสุด 5GB ต่อวัน) ในราคา 6,600 เยนต่อเดือน และสูงสุด 5GB ต่อเดือน ในราคา 3,190 เยน ด้วยแผนที่ใช้เครือข่าย WiMAX ความจุข้อมูลสูงสุด 10GB เป็นเวลา 3 วัน 6,930 เยนต่อเดือน

ความพิเศษคือมีเคาน์เตอร์จำนวนมาก สามารถรับได้ที่สนามบินต่างๆ ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศญี่ปุ่น เช่น สนามบินนานาชาตินาริตะ เทอร์มินอล 1 และ 2 สนามบินนานาชาติฮาเนดะ เทอร์มินอล 1 และ 2 และสนามบินนานาชาติคันไซ สนามบินโอซาก้า อิตามิ สนามบินนานาชาติชูบุเซ็นแทรร์ เทอร์มินอล 1 และ 2, สนามบินฟุกุโอกะ สนามบินนิวชิโตเสะหรือสนามบินนิวชิโตเสะ อาคารผู้โดยสาร 1 และ 2, สนามบินนาฮะ, สนามบินโคมัตสึ และสนามบินเซนได

ข้อดี:
เป็นบริการแนะนำสำหรับผู้ที่ต้องการรับเครื่องทันทีที่เคาน์เตอร์สนามบินหลังจากมาถึงประเทศญี่ปุ่น และสำหรับผู้อยู่อาศัยระยะยาว

4. Japan Wi-Fi rental : แพลนที่ใช้ง่ายและราคาถูก

บริการนี้มีแผนเดียว 430 เยนต่อวัน ความเร็ว 612Mbps (50 GB ต่อเดือน เครือข่ายของ Softbank) นอกจากนี้ยังมีค่าจัดส่ง 1,100 เยน

สามารถรับอุปกรณ์ได้ที่ไปรษณีย์สนามบิน หรือส่งตามที่พัก โรงแรม หรือบ้านเพื่อนก็ได้ ส่วนขากลับ ใช้วิธีหย่อนลงในตู้ไปรษณีย์ หากคุณทำอุปกรณ์หาย คุณจะต้องจ่าย 16,500 เยนสำหรับอุปกรณ์ และ 19,800 เยนสำหรับการยกเลิกสัญญา

ข้อดี:
ใช้ได้ไม่จำกัด (แต่ถ้าใช้เกิน 50GB ต่อเดือนจะถูกจำกัดความเร็ว) เช่าได้วันละ 430 เยน และ 6,450 เยนต่อเดือน ถูกมาก เหมาะกับนักท่องเที่ยวและผู้พำนักระยะยาว อุปกรณ์หนึ่งเครื่องสามารถเชื่อมต่อได้สูงสุด 14 เครื่อง การเช่าหนึ่งเครื่องสำหรับการเดินทางเป็นกลุ่มนั้นสะดวกมาก

บทความแนะนำ

ไปญี่ปุ่นต้องเตรียมอะไรบ้าง