เที่ยวญี่ปุ่น โตเกียว ฟูจิ

เที่ยวญี่ปุ่น โตเกียว ฟูจิ หากอยากไปเที่ยวเมืองใหญ่สุดชิคอย่างโตเกียว แต่กลับกัน ไม่อยากพลาดไฮไลท์อย่างการชมภูเขาไฟฟูจิ ไม่ต้องเลือกให้ยากอีกต่อไปเพราะเรารวมทั้งสองที่ไว้ด้วยกันในโปรแกรมเที่ยว 5 วัน 4 คืน คัดเฉพาะที่เด็ดที่มาแล้วต้องจัดไม่งั้นเหมือนได้สวรรค์ ไม่ถึงวัดและศาลเจ้า ย่านแฟชั่น แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมและแหล่งช้อปปิ้งของโตเกียว นอกจากนี้ การไปทะเลสาบคาวากุจิโกะยังกล่าวกันว่าเป็นจุดที่สามารถชมภูเขาไฟฟูจิได้สวยที่สุดอีกด้วย พร้อมวิธีง่ายๆ ที่มือใหม่ ทำตามได้ไม่มีสะดุด เลิกกลัวการเที่ยวคนเดียว แล้วสนุกไปกับทริปนี้ไปด้วยกัน แล้วคุณจะรู้ว่าการวางแผนเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเองนั้นไม่ยากอย่างที่คิด

เที่ยวญี่ปุ่น โตเกียว ฟูจิ วันที่ 1

ในวันแรกฉันต้องมาที่จุดหมายปลายทางยอดนิยมตลอดกาลอย่างวัดอาซากุสะ (วัดเซ็นโซจิ) ที่มีกลิ่นของความเก่าแก่ เพื่อไหว้พระและขอสิ่งดี ๆ เป็นนิมิตหมายอันดีในการเดินทางพร้อมขอถ่ายรูปหน้าประตูใกล้ไฟแดงยักษ์ไม่ว่าใครมาก็ถ่ายไว้สักใบสองใบเพื่อยืนยันอย่างเป็นทางการ เยี่ยม. พร้อมเดินเล่นย่าน Nakamise Shopping Street ที่มีร้านอร่อยให้เดินชิมไม่มีเบื่อ หลายร้านที่นี่คิวยาวมาก มีของน่ารักน่าซื้อเพียบ ให้ขึ้นรถไฟใต้ดินสาย Asakusa หรือสาย Ginza ไปยังสถานี Asakusa หากคุณไม่อิ่มใจกับการช้อปปิ้ง คุณสามารถนั่งสาย Ginza ไปยังสถานี Ueno แล้วเดินไปอีกไม่ไกลก็จะถึงตลาด Ameyoko ที่มีชื่อเสียง มากในหมู่นักท่องเที่ยวชาวไทย เพราะไม่ว่าจะหาอะไรก็มีครบทั้งสินค้าแฟชั่น อาหาร ของใช้ทั่วไป และที่สำคัญราคาค่อนข้างถูกกว่าที่อื่น

ช่วงบ่าย เดินทางต่อไปยังโตเกียวสกายทรี แลนด์มาร์คใหม่ล่าสุดของโตเกียว การเดินเที่ยวมีหลายรูปแบบ หากคุณมาเป็นครอบครัว คุณสามารถไปที่พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำเพื่อดูสัตว์น้ำได้ ที่มีสัตว์น้ำและสัตว์อื่นๆ อวดความน่ารักแบบจัดเต็ม หรือหากคุณเป็นขาช้อปอยากช้อปของที่ระลึกที่มีขายเฉพาะที่โตเกียวสกายทรี คอลลอน โตเกียวสกายป๊อกกี้ยักษ์ และอื่นๆ อีกมากมาย ในฤดูหนาวจะมีสตรอว์เบอร์รีลูกใหญ่ราคาไม่แพงขายด้วย คุณสามารถไปช้อปปิ้งที่ย่านโตเกียวสกายทรีทาวน์ โดยจากตลาด Ameyoko คุณสามารถนั่งรถบัสไปที่สถานี โตเกียวสกายทรี แล้วเดินต่ออีกประมาณ 4 นาที

วันที่ 2

วันแรกก็เต็มแล้ว วันที่สองก็ดีเหมือนกัน เริ่มต้นเช้าด้วยการหาของกินอร่อยๆ ที่ตลาดปลา Tsukiji ตลาดปลาที่ใหญ่ที่สุดในโตเกียวและระดับโลกด้วย ไฮไลท์อยู่ที่อาหารทะเลที่เรียกว่าสดสุดๆ โซนร้านอาหารเปิดเวลา 09.00-14.00 น. หน้าตาซาซิมิ ไม่ว่าจะเป็นร้านคิวทองหรือร้านทั่วไปนี่เรียกว่าสด อร่อย และที่สำคัญราคาก็เบาสบายกระเป๋ามากๆ อิ่มท้องแล้วตามด้วยผลไม้สดในตลาดมีมากมายให้แวะชิม ซึ่งบริเวณนี้จะเปิดให้บริการถึงวันที่ 4 ตุลาคม 2018 เท่านั้น จากนั้นจะย้ายไปที่ใหม่เปิดในวันที่ 11 ตุลาคม 2018 สามารถเดินทางโดยสาย Hibiya ลงสถานี Tsukiji แล้วเดินต่อประมาณ 6 นาที

ช่วงบ่าย สัมผัสย่านที่หรูหราที่สุดในโตเกียวอย่างกินซ่า ที่มีร้านค้าแบรนด์เนมระดับโลกเรียงรายตลอดสองข้างทาง แม้จะไม่ได้ช้อปปิ้งแต่ได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศที่อาคารบางส่วนซึ่งส่วนใหญ่เป็นห้างสรรพสินค้าจะยังคงรักษาสถาปัตยกรรมโบราณที่ดูกลมกลืนกับความทันสมัย จุดที่เป็นไฮไลท์ที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือ Ginza Wako (กินซ่า วาโกะ) ด้านบนสุดมีหอนาฬิกาสไตล์ตะวันตกโบราณ โดยเฉพาะหากมาในวันเสาร์หรืออาทิตย์ เวลา 12.00-17.00 น. คุณจะได้เดินช้อปปิ้งชิลล์ๆ ที่ถนนชูโอ โดริอีกด้วย การเดินทางโดยรถไฟจะสะดวกที่สุด นั่ง Ginza Line, Hibiya Line หรือ Marunouchi Line แล้วลงที่สถานี Ginza เดินออกจากสถานีก็ถึงที่หมาย หากคุณยังมีเวลาเหลือ หากคุณต้องการชมอาคารทางวัฒนธรรมที่สวยงามในบริเวณใกล้เคียง ขอแนะนำให้ไปที่สถานีโตเกียวซึ่งมีสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นและมีเอกลักษณ์มาก ยังสามารถไปช้อปปิ้งต่อได้อีกเพียงลงไปที่ชั้น B1F นอกจากอาหารอร่อยแล้วยังมีร้านค้ามากมายที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์อนิเมะ เช่น โมเดล ฟิกเกอร์ และตุ๊กตา

วันที่ 3

เมื่อคุณท่องเที่ยวในโตเกียวจนเต็มอิ่มแล้ว คุณก็จะมาถึงดินแดนประจำชาติอย่างภูเขาไฟฟูจิ โดยมาถึงจุดที่เรียกได้ว่าสวยที่สุดของภูเขาไฟฟูจิที่ทะเลสาบคาวากุจิโกะ สามารถเดินทางแบบไปเช้าเย็นกลับได้สบายๆ ซึ่งไม่ยากอย่างที่คิดสามารถเริ่มต้นได้ที่สถานี Shinjuku โดยมี 2 ทางให้เลือก นั่นคือ นั่งรถไฟสาย Chuo ไปลงที่สถานี Takao เพื่อเปลี่ยนขบวน จากนั้นลงสุดสายที่สถานี Otsuki แล้วเปลี่ยนเป็นสาย Fujikyu Railway ลงที่สถานีปลายทาง Kawaguchiko เดินจากสถานีไปยังทะเลสาบคาวากุจิโกะประมาณ 15 นาที ใช้เวลาเดินทางประมาณสองชั่วโมงจากโตเกียว หรือถ้าอยากนั่งนานๆโดยไม่เปลี่ยนสายก็เดินทางด้วยรถบัสที่สถานี Shinjuku ปลายทาง Kawaguchiko ใช้เวลาเกือบ 2 ชม. รอบทะเลสาบคาวากุจิโกะยังมีกิจกรรมอื่นๆ ให้ทำตลอดทั้งวัน เช่น การขึ้นกระเช้าลอยฟ้าคาจิคาจิเพื่อชมวิวมุมสูงของภูเขามิตสึโทเกะและระหว่างทาง หรือไม่ก็ซื้อ Bus Pass Kawaguchi Lake ซึ่งเป็นรถบัสท้องถิ่นเพื่อเดินทางรอบๆ พื้นที่ โดยสามารถซื้อล่วงหน้าได้ทางเว็บไซต์ http://bus-en.fujikyu.co.jp/ เรียกได้ว่าเดินทางได้ตั้งแต่เช้ายันค่ำ มีอีกที่ที่ถ่ายรูปภูเขาไฟฟูจิได้สวยมากๆ ต้องเป็น Pagada Chureito หรือที่รู้จักกันแพร่หลายว่าเป็นเจดีย์ห้าชั้น ซึ่งด้านบนเปิดให้สามารถขึ้นไปชมภูเขาไฟฟูจิได้ด้วย บอกเลยว่า วิวมุมนี้สุดยอดมาก คุ้มสุดๆ นั่งรถไฟจากสถานี Kawaguchiko บนสาย Fujikyu ไปยังสถานี Shimoyoshida แล้วเดินประมาณ 20 นาที

วันที่ 4

หลังจากสัมผัสภูเขาไฟฟูจิจนเต็มอิ่มแล้วเราก็กลับเข้าเมืองเพื่อช้อปปิ้งและเตรียมตัวกลับไทย เริ่มต้นวันใหม่ด้วยการเยี่ยมชมสถาปัตยกรรมโบราณของ Meiji Jingu ศาลเจ้าที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน เดิมสร้างขึ้นสำหรับจักรพรรดิเมจิ โดยมีการบูรณะอย่างต่อเนื่องเพื่อให้คงความสวยงามเช่นเดิม สามารถเดินทางโดยรถไฟใต้ดินสาย Chiyoda หรือ Fukutoshin Line ลงที่สถานี Meiji Jingu Mae เดินประมาณ 10 นาที จากนั้นไปช้อปปิ้งต่อที่ถนนแฟชั่นย่านฮาราจุกุที่ Takeshita Dori นั้นไม่ มีแต่สินค้าแฟชั่นมากมาย มีร้านค้าด้วย กล่าวกันว่าเป็นเครปที่อร่อยที่สุดในโตเกียว มีหลากหลายให้เลือก การเดินทางสามารถเดินต่อไปจากศาลเจ้าเมจิโดยใช้เวลาไม่เกิน 10 นาที ยังไม่พอ เดินต่ออีก 10 นาทีก็มาต่อกันที่ Ometesando ที่เต็มไปด้วยห้างสรรพสินค้าและบรรยากาศสุดโดดเด่น รายล้อมไปด้วยต้นไม้ใหญ่ที่ร่มรื่นสวยงามที่สุดในช่วงใบไม้เปลี่ยนสี

ในตอนบ่าย เราเดินทางต่อไปยังชิบูย่าซึ่งมีสถานที่สำคัญแห่งหนึ่งที่มีชื่อเสียงมากคือห้าแยกชิบูย่า ให้สามารถนั่งชมส่วนนี้ที่ร้านอาหารหรือคาเฟ่ใกล้ๆ ได้เลย เป็นอะไรที่มาโตเกียวแล้วต้องโดนสักครั้ง และอนุสาวรีย์เจ้าฮาจิโกะ สุนัขผู้ซื่อสัตย์ ซึ่งถือว่าเป็นอีกจุดยอดนิยมที่ผู้คนนิยมมากัน และยังมีที่ให้นั่งพักผ่อนชิลๆ อีกด้วย บริเวณนี้ขึ้นชื่อว่าเป็นย่านช้อปปิ้งที่มีห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่มากมาย เช่น ชิบูย่า 109, โตคิวและชิบูย่าฮิคาริเอะ คุณสามารถมาถึงบริเวณนี้ได้โดยขึ้นรถไฟสายกินซ่าไปยังสถานีชิบูย่า เรียกได้ว่าช้อปของฝาก ในย่านนี้มีทุกสิ่งให้คุณเลือกสรร

วันที่ 5

หากเดินทางกลับไทยในช่วงบ่ายยังพอมีเวลาเหลือ แล้วปิดท้ายวันสุดท้ายด้วยการไปตะลุยช้อปปลอดภาษีที่ตึก Takeya สีม่วง ซึ่งถ้าไม่มีอะไรตกหล่น หรือหลายวันแล้วยังหาไม่เจอก็ต้องจบที่นี่เพราะมีคำตอบทุกอย่างให้คุณ คุณสามารถเดินทางด้วยรถไฟสายฮิบิยะ ลงที่สถานี Naka – Okachimachi ได้ แต่อย่าเพลิดเพลินกับการช้อปปิ้งจนลืมมีเวลาแพ็คกระเป๋าและไปสนามบิน ไม่อย่างนั้นความสนุกอาจหายไปได้ง่ายๆ

บทความแนะนำ

เที่ยวญี่ปุ่น นอกเมือง

เที่ยว รถไฟ ญี่ปุ่น